Details
- Title: โรงแรมผี
- English title: ฺThe Ghost Hotel / Haunted Hotel
- Genre: Thriller-Drama
Production Credits
- Producer: Exact & Scenario
- Director: Chatchai Surasit
- Written by : Sritong Ladawan
- Screenwriter : Sanlaya
Cast
- Chakrit Yamnarm (Krit) as Khun Luang
- Namcha Cheranut Yusanonda as Sarapee
- Alice Apasanan
- Pepper Ratthasart Korrasud
- Ton Chayatorn Setjinda
- Pei Panward Hemanee
- Noom Atthaporn Teemakorn
- Poo Anuwat Niwatawong
- Pattra Apirathkul
- Patsorn Boonyagiat
- Man Supakit Tungtatsawat
- Napasorn Manwongsirikul
- Winai Kraiboot (Make)
- Tuk Boriboon Junreung
- Oliver Beaver
- Trab Yutapitchai
- Thongkhao Pattarachokchai
- Yokyak Chernyim
- Joobjib Chernyim
Synopsis
Luang Narueban Bureerak (Chakrit) is an evil lord. He buys the very beautiful Sarapee (Namcha) from her peasant family to be his servant. Though he had other women, he secretly loved Sarapee the most. He wanted her, but she kept rejecting because she was repulse by his cruel nature. Angered that she would reject him, he tortured her until she would give in. But she never did. Pan (Anuwat Niwatwong), a clerk at Luang Narueban Bureerak’s home, saw all of this and felt pity for Sarapee, so he decided to help her escape from Luang Naruebarn’s home.
Pan and Sarapee did escape with Luang Narueban in pursuit. Luckily for them, Luang Narueban Bureerak got into a severe accident while chasing them. On his deathbed, he plotted and vowed to punish them and their families and their future family members for eternity. In his will, he gives Pan and Sarapee a house in Bang Lamung where his spirit waited for them.
Pan and Sarapee did set up home in Bang Lamung and had two children together, son Parinya (Pepper) and daughter Pattama (Namcha). Sarapee dies when Pattama is an infant. Pattama grows up to look identical to her mother.
When Parinya graduated from college, he decided to go into the hotel business. He transformed the house his family inherited from Luang Narueban to a hotel. Unbeknownst to Parinya, he woke up Luang Narueban’s spirit and all heck breaks loose.
Thai Synopsis
ปีพุทธศักราช 2490
หลวงนฤบาลบุรีรัตน์ เดินทางไปจัดการที่นาที่ต่างจังหวัดและได้พบ สารภี หญิงสาวสวยจากครอบครัวชาวนาที่ยากจน หลวงนฤบาลฯ พึงใจในรูปโฉมของสารภี จึงบังคับซื้อตัวเธอมาจากพ่อแม่ แล้วพาตัวสารภีกลับมาบ้านที่พระนครหลวงนฤบาลฯ ทั้งรักทั้งหลงสารภี ถึงแม้เขาจะมีภรรยาหลายคน แต่หลวงนฤบาลฯ ก็ไม่รักใครมากเท่าสารภี แต่สารภีทั้งเกลียดทั้งกลัวหลวงนฤบาลฯ เพราะหลวงนฤบาลฯ เป็นคนใจคอโหดเหี้ยม ชอบลงโทษบ่าวไพร่ที่ทำผิดด้วยวิธีการอันทารุณ เธอจึงไม่ยินดีที่จะเข้าหอกับ หลวงนฤบาลฯ
หลวงนฤบาลฯ โกรธมาก แต่ด้วยความรัก หลวงนฤบาลฯ จึงไม่ต้องการใช้กำลังบังคับขืนใจสารภี หลวงนฤบาลฯ เอาใจสารภีด้วยการพาไปพักผ่อนที่บ้านตากอากาศที่บางละมุง โดยหวังว่าสารภีจะใจอ่อน แต่สารภีก็ปฏิเสธ หลวงนฤบาลฯ จึงลงโทษสารภีด้วยการผูกสารภีไว้กับขื่อคา ทรมานให้อดข้าวอดน้ำ หวังให้สารภียอมรับรัก แต่สารภีกลับใจแข็ง ยอมรับการทรมานโดยไม่ปริปาก
ปั้น เสมียนหนุ่ม เด็กในบ้านของหลวงนฤบาลฯ แอบรักและสงสารสารภีอยู่เงียบ ๆ ปั้นทนเห็นสารภีถูกทรมานจนตายไม่ไหว ปั้นจึงคิดแผนให้สารภีหนีจากหลวงนฤบาลฯ โดย บอกให้สารภีทำเป็นยอมรับรัก และขอให้จัดการส่งตัวเธอเข้าหอตามประเพณี หลวงนฤบาลฯ ดีใจมาก รีบปล่อยสารภีจากการจองจำ และนำเอาเครื่องประดับนพเก้าชุดใหญ่ มามอบให้เธอในฐานะเจ้าสาวของเขา แต่ในคืนนั้นเองปั้นได้พาสารภีหนีไป หลวงนฤบาลฯ โกรธมาก นำกำลังออกตามหาตัวสารภีและปั้น โดยมี เพิ่ม ลูกน้องคนสนิทเป็นกำลังสำคัญ แต่ไม่ว่าจะทุ่มเทสักเท่าไหร่ก็ไม่อาจจับตัวสารภีและปั้นได้ เพราะมี เทียม เพื่อนรักของปั้น คอยช่วยเหลือส่งข่าวให้ปั้นกับสารภีหนี หลวงนฤบาลฯ ได้ทัน
ระหว่างการติดตามไล่ล่าตัวสารภีและปั้น หลวงนฤบาลฯ ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำตกเขา ทำให้ขาข้างซ้ายพิการ การติดตามค้นหาจึงยุติลง เพิ่มพาหลวงนฤบาลฯ กลับไปรักษาตัวที่ พระนคร หลวงนฤบาลฯ บาดเจ็บสาหัส รู้ตัวว่าไม่อาจรอดชีวิตต่อไป แต่จิตใจยังเปี่ยมด้วยความอาฆาต แม้ว่าตัวเองกำลังจะตายจากโลกนี้ไปแล้ว แต่หลวงนฤบาลฯ ผู้อำมหิต ก็ยังคิดหาทางจะแก้แค้นสารภีและปั้น หลวงนฤบาลฯ สาบานว่าคนทรยศทั้งสอง รวมทั้งลูกหลานที่เกิดขึ้นมาในอนาคต จะต้องได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาสม
ก่อนสิ้นใจ หลวงนฤบาลฯ ได้เรียกเพิ่มมาสั่งเสีย ให้ทำภารกิจลับอันหนึ่งที่จะต้องใช้เวลาถึงหนึ่งปีจึงจะสำเร็จ ซึ่งเมื่อเพิ่มทำสำเร็จ เพิ่มก็จะได้รับมรดกก้อนใหญ่เป็นรางวัล เพิ่มก็รับปาก หลวงนฤบาลฯ สิ้นใจ เพิ่มเป็นนำศพของหลวงนฤบาลฯ บรรจุใส่โลงโดยไม่ได้ทำพิธีทางศาสนา จากนั้นก็นำศพไปฝังในป่าช้า สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน แต่เพิ่มอ้างว่ามันเป็นความประสงค์ของหลวงนฤบาลฯ จึงไม่มีใครทัดทานได้
หลังจากนั้น เพิ่มก็ลอบนำคนมาขุดศพของหลวงนฤบาลฯ ออกไปอย่างลับ ๆ แท้ที่จริงแล้วภารกิจลับของเพิ่มก็คือ การโยกย้ายศพของหลวงนฤบาลฯ ไปประกอบพิธีอาถรรพ์ให้ครบ 7 ป่าช้า เพื่อที่หลวงนฤบาลฯ จะกลายเป็นปีศาจที่ทรงพลังเข้มแข็ง และเมื่อศพผ่านพิธีครบ 7 ป่าช้าแล้ว ศพของหลวงนฤบาลฯ ก็ถูกนำมาเก็บไว้ในห้องลับ ในบ้านตากอากาศที่บางละมุง โดยเพิ่มได้ก่อกำแพงโบกปูนทับแล้วเอารูปวาดของหลวงนฤบาลฯ แขวนประดับไว้
หลังจากนั้นสารภีและปั้นก็ต้องประหลาดใจอย่างยิ่ง เมื่อได้รับแจ้งว่าหลวงนฤบาลฯ ได้ทำพินัยกรรม ยกบ้านตากอากาศที่บางละมุงให้กับสารภี เพิ่มบอกสารภีว่า ก่อนสิ้นใจ หลวงนฤบาลฯ รู้สึกผิดที่ทำร้ายสารภี จึงอยากจะไถ่บาป ปั้นและสารภีหลงเชื่อ จึงตัดสินใจรับบ้านหลังนี้เอาไว้ แท้ที่จริงแล้ววิญญาณอาฆาตของหลวงนฤบาลฯ ยังรอคอยการแก้แค้นอยู่ทุกขณะจิต
ทันทีที่สารภีและปั้นเหยียบย่างเข้ามา หลวงนฤบาลฯ ก็จะออกมาลงโทษคนทรยศทั้งสองให้ตายตกไปตามกัน แต่ในวันที่สารภีและปั้นย้ายเข้ามาที่บ้านตากอากาศ สารภีนำเอาพระพุทธรูปเชียงแสน องค์ใหญ่มาด้วย เมื่อเธอเห็นรูปวาดของหลวงนฤบาลฯ สารภีเกิดความหวาดกลัวเธอจึงให้ย้ายรูปนั้นออกไป แล้วประดิษฐานพระพุทธรูปเชียงแสนเอาไว้แทนที่ พระพุทธรูปองค์นั้นจึงประดิษฐานอยู่หน้าโลงศพของหลวงนฤบาลฯ โดยบังเอิญ ทำให้ดวงวิญญาณของหลวงนฤบาลฯ ไม่อาจออกมาอาละวาดได้ วิญญาณของหลวงนฤบาลฯ จึงได้แต่บ่มความแค้นเอาไว้ รอคอยวันที่จะขึ้นมาชำระ
ปีพุทธศักราช 2523
หลังจากย้ายมาอยู่ที่บ้านบางละมุงได้ไม่นาน ปั้นกับสารภีก็ให้กำเนิดลูกชาย ปริญญาและลูกสาว ปัทมา หลังจากคลอดปัทมา สารภีก็เสียชีวิตไป ต่อมาเมื่อปริญญาและปัทมาต่างต้องเดินทางไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ปั้นจึงชวน เปลื้องน้องชายให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้านบางละมุง
ปริญญาเป็นหัวสมัยใหม่ หลังจากเรียนจบกลับมาจึงเสนอให้ปั้นและเปลื้องเอาบ้านมาดัดแปลงเป็นโรงแรม เปลื้องก็เห็นดีด้วย เพราะภายในปีหน้าปัทมาก็จะเรียนจบ จะได้มาช่วยดูแลกิจการอีกแรงหนึ่ง ปริญญาลงมือตกแต่งบ้านให้กลายเป็นโรงแรมชั้นดี และต้องการทำบาร์เหล้าที่ห้องโถง ปริญญาจึงสั่งให้ย้ายพระพุทธรูปออกไปเพื่อความเหมาะสม ปั้นพยายามจะคัดค้านแต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดปริญญาก็ย้ายพระพุทธรูปออกไปจนได้ โดยหารู้ไม่ว่าเป็นการเปิดประตูให้วิญญาณชั่วของ หลวงนฤบาลฯ ออกมาแก้แค้น
โรงแรมบางละมุงเปิดตัวอย่างสง่างาม แต่ในวันแรกที่เปิดกิจการ ฝนก็ตกกระหน่ำราวกับฟ้าพิโรธ เฉิดโฉม เป็นลูกค้าคนแรกที่ฝ่าพายุฝนเข้ามา เธอเป็นสาวสวยจัด ท่าทางบ่งชัดว่ามีฐานะมั่งคั่งระดับเศรษฐี แต่มีท่าทางร้อนรนเหมือนกับหลบหนีอะไรมา ปั้นและเปลื้องให้การต้อนรับเธอเป็นอย่างดี
แขกคนต่อมาคือ เสี่ยเพ้ง เจ้าของกิจการเรือประมงและห้องเย็น เสี่ยเพ้งสนิทสนมกับเปลื้องมานานแล้ว เสี่ยเพ้งบอกเปลื้องว่ามีนัดกับพ่อค้าจากพระนครมาเจรจาเรื่อง ซื้อเครื่องเรือเสี่ยเพ้งเห็นเฉิดโฉมเป็นหญิงสาวสวยที่มาคนเดียวก็พยายามจะตีสนิทืแต่เธอไม่สนใจ
ไม่นาน ปราโมทย์ สามีของเฉิดโฉมก็ตามมาด้วยอาการเมามายอย่างหนัก ความจริงจึงเปิดเผยว่าเฉิดโฉมหนีออกมาจากบ้านของสามี เพราะเธอกับปราโมทย์มีปากเสียงกันเป็นประจำ ปราโมทย์เป็นคนขี้หึง เจ้าอารมณ์ แถมเวลาเมายังชอบทุบตีภรรยา เฉิดโฉมทนไม่ไหว ในเมื่อปราโมทย์ไม่ยอมหย่า เธอจึงต้องหอบข้าวของหลบหนีมา
ปราโมทย์ตามมาทัน ทั้งสองทะเลาะกันรุนแรง โดยมีเสี่ยเพ้งร่วมด้วย ปราโมทย์จะลากตัวเฉิดโฉมกลับบ้าน แต่เปลื้องและปริญญาขัดขวางเอาไว้ ปราโมทย์จึงกลับไปด้วยความโกรธแค้น เขาขู่ว่าหากเขารู้ว่าเฉิดโฉมเป็นชู้กับเสี่ยเพ้ง เขาจะฆ่าเธอเสีย เฉิดโฉมขอบใจปั้นและเปลื้อง เธอเข้าพักที่ห้องที่ชั้น 1 แล้วขอให้น้อยเด็กรับใช้ทั่วไปของโรงแรมช่วยปลุกแต่เช้ามืด เพราะเธอรู้ดีว่าปราโมทย์ต้องกลับมาอีกแน่
ในกลางดึกของคืนนั้น ท่ามกลางเสียงลมพายุฝนที่โหมกระหน่ำปั้นได้ยินเสียงเดินลากเท้าหนัก ๆ ของใครคนหนึ่งที่ ชั้น 1 แถว ๆ ห้องพักของเฉิดโฉม เขาลุกออกมาดูแต่ไม่เห็นใคร จึงกลับเข้าไปนอน เมื่อน้อยไปปลุกเฉิดโฉมตอนเช้า กลับไม่มีเสียงตอบ น้อยตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปดู ก็พบกับภาพที่น่าสยดสยองเฉิดโฉมเสียชีวิตแล้ว ร่างกายไม่มีบาดแผลใด ๆ นอกจากดวงตาที่เหลือกถลน ราวกับคนที่หวาดกลัวจนสุดขีด ผกก. ชิงชัย และหมู่กรี ถูกตามตัวให้มาโดยด่วน แต่ไม่พบร่องรอยใด ๆ นอกจากรอยเท้าที่ไม่เท่ากัน คล้ายคนขาพิการด้านซ้าย แต่ในเมื่อทั้งโรงแรมไม่มีใครที่มีลักษณะอย่างนั้น ผู้ต้องสงสัยคนเดียวในคดีนี้คือปราโมทย์ ที่ขู่ฆ่าเฉิดโฉมตั้งแต่เมื่อคืน ทางตำรวจจึงติดตามหาตัวปราโมทย์ต่อไป
ส่วนพ่อค้าที่นัดหมายกับเสี่ยเพ้งนั้นเลื่อนนัดกะทันหัน เสี่ยเพ้งจึงต้องพักอยู่ที่โรงแรมบางละมุงอีกหนึ่งคืน ด้วยนิสัยที่ชอบกินเหล้าจนเมาแล้วโอ้อวด ในคืนนั้นเสี่ยเพ้งคุยว่าตนเองพกเงินสดมาถึงแปดหมื่นเพื่อมาซื้อเครื่องยนต์เรือแล้วกลับเข้านอนด้วยความเมากลางดึกของคืนนั้น ปั้นได้ยินเสียงคนเดินลากเท้าดังขึ้นอีก คราวนี้เสียงดังมาจากทางห้องพักของเสี่ยเพ้ง เสี่ยเพ้งเองก็ได้ยินเช่นกัน เขาจึงออกมาดู แต่ไม่พบใครนอกจากปั้นที่เดินผ่านไป
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นร่างไร้ชีวิตของเสี่ยเพ้งก็ถูกพบในห้องนอน สภาพการตายเป็นแบบเดียวกับเฉิดโฉมไม่มีผิด ผกก.ชิงชัยมาชันสูตร แล้วพบว่าเงินแปดหมื่นบาทที่เสี่ยเพ้งนำมาได้หายไปด้วย ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ โดยฆาตกรที่ขาด้านซ้ายพิการอีกเช่นเคย เนื่องจากมีของหาย ผกก.ชิงชัยจึงขอตรวจค้นทุกห้องในโรงแรม ปั้นขอตัวขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าเงินแปดหมื่นบาทอยู่ในลิ้นชักเสื้อผ้าของตน ด้วยความกลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ปั้นจึงไม่กล้าบอกตำรวจ เปลื้องมาพบเข้า เปลื้องเชื่อว่าปั้นไม่ได้เป็นคนฆ่าเสี่ยเพ้งแน่ จึงช่วยซ่อนเงินเอาไว้จนพ้นจากสายตาตำรวจ
คืนนั้นปั้นกับเปลื้องเอาเรือลำเล็กออกไปกลางทะเล แล้วเอาหินถ่วงห่อเงินให้จมลงสู่ก้นทะเลไป แต่ในคืนนั้น ผกก.ชิงชัยได้สั่งให้หมู่กรีอยู่เฝ้าที่โรงแรม เผื่อจะได้เบาะแสของฆาตกรรายนี้ หมู่กรีกลับแอบหลับอยู่ริมหาด เมื่อตื่นมาในตอนเช้า หมู่กรีก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น ที่ชายหาดมีธนบัตรลอยมาติดอยู่เป็นพรืด นับแล้วเป็นจำนวนแปดหมื่นบาทพอดี เงินนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากเสี่ยเพ้ง แต่ที่ทุกคนสงสัยก็คือทำไมมันจึงลอยมาติดที่ชายหาดของโรงแรมนี้
ปราโมทย์สามีของเฉิดโฉมได้ข่าวว่ามีการฆ่าชิงทรัพย์เสี่ยเพ้ง ก็เดินทางมาที่โรงแรมทันที ปราโมทย์สงสัยว่าคนที่โรงแรมจะฆ่าเฉิดโฉมเพื่อชิงทรัพย์เช่นกัน เพราะตอนที่เธอหนีมาจากเขา เธอเอาเครื่องเพชรทั้งหมดติดตัวมาด้วย ปราโมทย์กล่าวหาปั้นกับเปลื้อง จนมีเรื่องชกต่อยกับปริญญา ปราโมทย์หมดสติไป น้อยจึงเอาตัวไปนอนที่ห้องพักคืนนั้น
ปั้นเริ่มสงสัยว่าเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นกับเขาดูเหมือนมีใครจงใจทำให้เกิดขึ้น แต่คนคนนั้นคือใคร ใครคือฆาตกรลึกลับที่เดินลากเท้าในยามวิกาล ปั้นไม่ยอมนอน เขาพยายามเงี่ยหูฟังเสียงเดินลากเท้าเพื่อจับคนคนนั้นให้ได้ แต่สิ่งที่เขาได้ยินกลับเป็นเสียงหัวเราะอันเย็นเยียบ เสียงที่เขาไม่มีวันลืมตลอดชั่วชีวิต ... เสียงของหลวงนฤบาลฯ
หลวงนฤบาลฯ มาปรากฏตัวกับปั้น แล้วบอกว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือการแก้แค้น ทุกคนในครอบครัวของปั้นและสารภีจะต้องพบกับความวิบัติ ปั้นจะเป็นคนแรก ปั้นตกใจมากในขณะเดียวกัน ป้าเจิม แม่ครัว ก็บ่นเรื่องมีดหั่นเนื้อเล่มใหม่ที่หายไป
เช้าวันรุ่งขึ้นน้อยเป็นคนพบมีดเล่มนั้นปักอยู่กลางหลังของปราโมทย์ ปั้นกลัวว่าหากข่าวแพร่สะพัดออกไปตัวเองจะตกเป็นผู้ต้องหาปั้นกับเปลื้องจึงช่วยกันซ่อนศพของปราโมทย์เอาไว้ในห้องน้ำ แต่จู่ ๆ น้ำประปาก็มีปัญหา ทำให้ มัด ช่างประจำโรงแรมปีนท่อน้ำขึ้นมาตรวจสอบ มัดเลยพบศพของปราโมทย์เข้า แต่ด้วยความที่มัดจงรักภักดีกับปั้น มัดจึงไม่บอกใคร แถมยังอาสาเอาศพของปราโมทย์ไปทิ้งทะเลให้ในคืนนี้
ปั้นกลับมาที่ห้อง หลวงนฤบาลฯ มาบอกกับเขาว่า มัดรู้ความลับของเขาแล้วทางเดียวที่ปั้นจะปลอดภัยก็คือ คืนนี้ปั้นต้องฆ่ามัด ปั้นปฏิเสธว่าเขาไม่มีวันทำ หลวงนฤบาลฯ หัวเราะอย่าง เย้ยหยันว่าปั้นไม่มีทางขัดขืนได้ ในคืนนั้นหมู่กรีแอบมาลาดตระเวณที่ชายหาด เขาพบกับมัดที่กลับมาจากการเอาศพไปทิ้งแต่ก่อน ที่หมู่กรีจะสอบสวนมัด ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากบ้านพักคนงาน ทั้งสองรีบวิ่งไปตามเสียงทันที ที่ห้องของมัด มัดและหมู่กรีเห็นปั้นกำลังจ้วงแทง ก้อน คนสวนที่นอนอยู่บนเตียงของมัดจนขาดใจ เมื่อมีคนมาเห็นปั้นก็วิ่งหนี หมู่กรีสังเกตเห็นว่าปั้นขาซ้ายพิการ ปั้นวิ่งไปได้ไม่นานก็ทิ้งมีดและสลบไป ปั้นโดนจับ เปลื้องและปริญญาตกใจมากปั้นพยายามว่า หลวงนฤบาลฯ เป็นคนทำ แต่ไม่มีใครเชื่อ
ผกก.ชิงชัยควบคุมตัวปั้นไปดำเนินคดี แต่ระหว่างการเดินทางวิญญาณของหลวงนฤบาลฯ เข้าสิงปั้นให้ทำร้ายร่างกายหมู่กรีแล้วหลบหนีไป ปั้นกลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคนที่ตำรวจออกตามล่า เปลื้องกับปริญญาไม่เชื่อว่าปั้นจะเป็นฆาตกร แต่เมื่อมีหลักฐานให้เห็นตำตาว่าปั้นคือฆาตกรขาพิการคนนั้น ผกก.ชิงชัยก็จำเป็นต้องตามจับปั้นมาลงโทษให้ได้
ระหว่างที่ปั้นหลบหนี หลวงนฤบาลฯ ออกมาปรากฏตัว เขาบอกปั้นว่าเขาจะทำให้ปั้นต้องหลบหนีอย่างทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต ให้สาสมกับที่เคยหลบหนีเขามาก่อน ปั้นจึงได้รู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่โรงแรมที่บ่งชี้ว่าเขาเป็นฆาตกรนั้น เกิดจากน้ำมือของหลวงนฤบาลฯ
ปั้นเขียนจดหมายมาเล่าความจริงทุกอย่างให้เปลื้องฟัง และให้รื้อโรงแรมเสียเปลื้องกับปริญญาไม่เข้าใจว่าปั้นต้องการอะไรระหว่างนั้น มยุรี กับ มาริสา น้องสาวและป้าชื่น คุณป้าของเธอมาพักที่โรงแรม มยุรีหลงรักปริญญาหลังจากที่เขาช่วยเธอจากการจมน้ำ เพราะเธอว่ายน้ำไม่เป็น เมื่อมยุรีรู้ว่าทางบ้านของปริญญากำลังมีปัญหา เธอจึงตัดสินใจพักอยู่เพื่อช่วยเหลือเขา มีคนพบปั้นและจับตัวส่งโรงพยาบาลบ้า เพราะปั้นเพ้อถึงผีหลวงนฤบาลฯ ว่าจะมาทำร้ายตน
แต่ในวันที่เปลื้องและปริญญาจะไปหา หลวงนฤบาลฯ ก็สิงปั้นให้ฆ่าตัวตาย ศพของปั้นถูกนำกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านปริญญาตัดสินใจจะรื้อโรงแรมตามคำสั่งของปั้น ปริญญาจึงโทรเรียก วิสูตร วิศวกรที่เป็นเพื่อนกันให้มาจัดการวิญญาณของหลวงนฤบาลฯ เข้าสิงร่างเปลื้อง ให้เปลื้องขัดขวางการรื้อโรงแรม จนอากับหลานทะเลาะกัน หลวงนฤบาลฯ สิงเปลื้องให้ไปปลุกปล้ำมยุรี จนปริญญาเข้าห้ามจนผิดใจกัน แจ่มสาวใช้ที่เห็นเหตุการณ์แล้วเอาเปลื้องไปนินทาก็ถูกฆ่าตายในคืนถัดมา น้อยให้การว่าเห็นเปลื้องเดินลงไปที่เรือนคนใช้ และลงมือฆ่าแจ่ม ผกก.ชิงชัยจับเปลื้องไปดำเนินคดี แต่เปลื้องกลับแย่งปืนแล้วยิงกับตำรวจ จนถูกตำรวจวิสามัญตายไป
ในนาทีคับขันนั้นเองเช่นเดียวกับที่ปั้นเขียนเล่ามาในจดหมายว่าใครที่โดนหลวงนฤบาลฯ สิงจะมีอาการเช่นนั้น ที่โรงแรมจึงมีสองศพตั้งเคียงกัน ท่ามกลางความเศร้าสลดของปัทมา ลูกสาวของปั้นที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงบ้าน พร้อมกับวิสูตรที่เดินทางมาเพื่อรื้อโรงแรม จากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ปริญญาเชื่อเรื่องหลวงนฤบาลฯ เขาบอกให้ปัทมาและวิสูตรได้รู้ แต่แทนที่จะหนี ทั้งสามกลับตัดสินใจที่จะสู้มยุรีตกลงใจที่จะร่วมชีวิตกับปริญญา ป้าชื่นและมาริสาจึงกลับไป ทิ้งมยุรีไว้กับปริญญาดวงวิญญาณของปั้นปรากฏตัวขึ้น ด้วยความห่วงในตัวลูก เขาจึงยังคงวนเวียนอยู่ เพื่อช่วยเหลือปริญญาและปัทมา
ส่วนหลวงนฤบาลฯ วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าของปัทมา หลวงนฤบาลฯ ก็ต้องผงะ เพราะเธอมีดวงหน้าเหมือนกับสารภีราวกับพิมพ์เดียวกัน แต่ถึงแม้เธอจะหน้าเหมือนหญิงที่เขารักสุดหัวใจ หลวงนฤบาลฯ ก็ตัดสินใจว่าจะฆ่าปริญญาและปัทมาตามคำสาบานที่เคยพูดไว้ก่อนตาย
ปริญญาและวิสูตรเริ่มดำเนินการรื้อโรงแรม แต่ยังไม่ทันลงมือวิสูตรกับคนงานก็โดนหลวงนฤบาลฯ เล่นงาน คนงานต้องสังเวยชีวิตไปหลายศพ จนไม่มีใครกล้าอยู่ต่อ แต่แทนที่วิสูตรจะกลัวคนบ้าดีเดือดอย่างเขากลับยิ่งแค้น เขาประกาศจะอยู่ปราบหลวงนฤบาลฯ ให้ได้ ผีหลวงนฤบาลฯ เริ่มหลอกปัทมาไปฆ่า โดยจะสะกดให้ปัทมาผูกคอตาย ผีปั้นไปเรียกวิสูตรมาช่วยปัทมาเอาไว้ได้ทัน
วันต่อมา มีชายชราคนหนึ่งมาที่โรงแรม เขาคือเทียม เพื่อนรักของปั้น เทียมบอกว่าดวงวิญญาณของปั้นขอร้องให้เทียมมาช่วยลูกหลานของเขาปริญญาจึงรับเทียมเข้ามาอยู่ด้วยกัน หลวงนฤบาลฯ หลอกเอาตัวปัทมาไปอีกด้วยการสิงร่าง แต่พอเห็นหน้าที่เหมือนกับสารภี เขาจึงฆ่าปัทมาไม่ลง
หลวงนฤบาลฯ พาดวงจิตของปัทมาไปยังห้องลับแห่งหนึ่ง เป็นที่ ๆ หลวงนฤบาลฯ เคยจองจำสารภีเอาไว้ หลวงนฤบาลฯ เอาเครื่องนพเก้าที่เคยให้กับสารภีมาให้ปัทมาดู เมื่อปัทมาตื่นขึ้นก็พบว่ามีจี้นพเก้าชิ้นหนึ่งอยู่ในมือเธอ ปริญญาพาช่างทองมาดู ระบุว่าเป็นงานเก่าแก่ตั้งแต่ยุครัชกาลที่ห้า เทียมพา อาจารย์เติม หมอผีมาช่วย ปัทมา หลวงนฤบาลฯ ขับไล่อาจารย์เติมไม่สำเร็จ อาจารย์เติมมาช่วยปลดปล่อยวิญญาณ ของเฉิดโฉม ปราโมทย์ และเสี่ยเพ้ง ทั้งหมดบอกว่าวิธีกำจัดหลวงนฤบาลมีวิธีเดียว คือต้องหาร่างของหลวงนฤบาลให้พบแล้วทำลายเสีย
วิสูตรกับปริญญาและเทียมจึงเดินทางไปหาศพของหลวงนฤบาลฯ ที่ป่าช้าวัดจันทร์ แต่ไม่พบ แม้ว่าจะตามหาไปหลายต่อหลายแห่งก็ยังไม่พบ ยิ่งสืบค้นความจริงก็ปรากฏออกมาว่า ศพของหลวงนฤบาลฯ ถูกเคลื่อนย้ายไปเรื่อย ๆ จากกรุงเทพฯ ค่อย ๆ ลงไปทางใต้ ราวกับว่ามีใครวางแผนเอาไว้อย่างรอบคอบ
เทียมเริ่มเอะใจถึงภารกิจพิเศษที่เพิ่มรับปากกับหลวงนฤบาลฯ ก่อนตาย ว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้ จึงพาทั้งสองไปตามหาเพิ่มระหว่างนั้น หลวงนฤบาลฯ พยายามพาดวงจิตของปัทมาไปอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งที่หายไป ปัทมาจะได้เครื่องประดับนพเก้ามาทีละชิ้น และเธอจะอ่อนแรงลงทุกครั้ง อาจารย์เติมจึงให้ของขลังปัทมาใส่เอาไว้ ทำให้หลวงนฤบาลฯ ไม่อาจเรียกดวงจิตปัทมาไปได้ หลวงนฤบาลฯ จึงต้องใช้วิธีหลอกล่อให้ปัทมาเอาเครื่องรางออกจากตัว ดวงวิญญาณของปั้นคอยช่วยปัทมา แต่กลับถูกหลวงนฤบาลฯ ทำร้ายจนพ่ายแพ้ไป
เทียมตามหาทนายเพิ่มจนเจอ แต่ไม่ทันจะพาปริญญากับวิสูตรไปเจอเพิ่มก็ถูกผีหลวงนฤบาลฯ ฆ่าตายเป็นการปิดปาก นุ่ม ภรรยาของเพิ่มมอบเอกสารเก่า ๆ ให้กับปริญญามา มีทั้งร่างพินัยกรรม และแบบแปลนการสร้างบ้านตากอากาศ ซึ่งวิสูตรพบว่ามีบางอย่างน่าสงสัย จึงขอเอาพิมพ์เขียวไปศึกษา ส่วนในร่างพินัยกรรมระบุชัดว่า เพิ่มมีหน้าที่ย้ายศพของหลวงนฤบาลฯ จริง ๆ แต่ในนั้นไม่ได้ระบุว่าที่สุดท้ายที่จะนำไปฝังคือที่ไหน
ท่ามกลางเรื่องร้าย ๆ ก็มีข่าวดีปริญญารู้จากมยุรีว่าเธอ เริ่มตั้งครรภ์ เมื่อหลวงนฤบาลฯ ได้รับรู้ว่าทายาทอีกคนของปั้นกำลังก่อกำเนิดขึ้น มยุรีจึงตกเป็นเหยื่อคนต่อไป หลวงนฤบาลฯ หาทางฆ่ามยุรีและลูกในท้อง ด้วยการหลอกให้เธอเดินลงทะเล แต่มยุรีก็รอดมาได้ อาจารย์เติมแจกตะกรุดวิเศษให้เธอไว้ แล้วสั่งห้ามถอดเป็นอันขาด ในขณะที่ทุกคนกำลังเป็นห่วงมยุรี ปัทมาก็หายตัวไปอีก คราวนี้เธอหายไปนานถึงสามวัน วิสูตรร้อนใจมาก ออกตามหาปัทมาจนแทบพลิกแผ่นดินแต่ไม่มีร่องรอย ปัทมาถูกพาไปอยู่ในห้องที่เก็บหีบศพของหลวงนฤบาลฯ หลวงนฤบาลฯ ให้ปัทมาสวมชุดเจ้าสาวพร้อมเครื่องประดับนพเก้าครบชุดแล้วบอกว่าเธอจะต้องอยู่ร่วมกับเขาในนี้ตลอดไป แทนที่สารภี
วิสูตรค้นพบสิ่งผิดปกติในแปลนก่อสร้างที่ในผนังด้านหนึ่งของโรงแรม วิสูตรกับพวกจึงทุบทำลายกำแพงนั้นลง แล้วทุกคนก็ต้องตกตะลึง เมื่อเห็นว่าด้านหลังกำแพงนั้น มีทางเข้าห้องลับซ่อนอยู่ข้างหลัง ห้องนั้นคือห้องที่หลวงนฤบาลฯ เคยนำสารภีมากักขังทรมาน ก่อนหน้าที่ปั้นและสารภีจะเข้ามาอยู่ที่บ้านตากอากาศแห่งนี้
เพิ่มได้นำศพของหลวงนฤบาลฯ มาเก็บไว้ที่ห้องลับนี้ และได้ก่อกำแพงปิดบังเอาไว้เพื่อซ่อนศพของหลวงนฤบาลฯ ไม่ให้มีใครพบเห็น ปริญญาและวิสูตรก็บุกไปถึงห้องลับได้ทัน ทั้งสองขัดขวางหลวงนฤบาลฯ ไม่ให้เอาดวงวิญญาณของปัทมาไปได้ หลวงนฤบาลฯ แค้นมาก จึงประกาศจะทำลายชีวิตทุกคน ในที่สุดวิสูตรและปริญญาได้ช่วยกันทำลายโลงศพของหลวงนฤบาลฯ ลงไปพร้อมกับวิญญาณอาฆาตที่ถูกทำลายลงจนได้โรงแรมบางละมุงกลับมาสู่สภาพปกติ ปริญญากับมยุรีได้จัดงานมงคลให้กับวิสูตรและปัทมา ทุกคนอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป
credits: โรงแรมผี, The Ghost Hotel