Details
- Title: บ่วงวันวาร
- English title: Buang Wan Waan / Misery of the Princess
Production Credits
- Produced by: Exact & Scenario
- Director: Nipon Pewnean
- Screenwriter: Ta-Nawadee Satidyoodthakarn
Cast
- Tono Pakin Kumwilaisuk as Chat (Yot/Chat)
- Warattaya Nilkuha (Jui) as Bua
- Pimmada Boriruksuppakorn (Pim) as Pit (Pim Pilat)
- Fang Pitchaya Srithep as Noi (Ganitta)
- Ak Akarat as Chai (Tawan/ Chai)
- Puri Hiranpruk (Ri) as Aipian (Pakpian)
- Pin Kejmanee Pichaironnarongsongkhram as Nangduang (Dutdeuan)
- Peemai Sumonrat Wattanaselarat as Kuncheun
- Ann Alicha Laisattruklai as Anna
- Sorapong Chatree as Chat's father
Synopsis
An ill-fated love story between a handsome high ranking soldier (Tono) and a slave (Jui). He's wealthy. She's poor. He's of high status. She and her father are indebted; therefore, she becomes the collateral to their debtor as a slave. They have already developed feelings for each other but their relationship is impossible because they're two worlds apart. However, that doesn't stophim from pursuing her.
Chud (Tono), our pra'ek, lead guy, hero, falls head over heels for the beautiful, sweet, and kind Bua (Jui) but is arranged to marry Pitt (Pim), the daughter of a wealthy and prominent businessman in town who also happens to be Bua's father's debtor. Of course Chud doesn't want to marry Pitt because he already loves Bua but when he finally confronts his father about it, it is too late. Pitt is confident that Chud will marry her and is unaware that he and Bua are in love. When Chud calls off the engagement/wedding, Pitt is extremely pissed, disappointed, and embarrassed because everyone in town already knew about it causing Pitt and her father to "lose face". Soon enough, Pitt learns from her loyal servant, Duang (Pin), that Chud already has a lover and later finds out that it is Bua. Pitt tortures Bua, along with Noi (Fang), Bua's sincere friend who is also a slave.
Seeing that the situation has worsened, Chud, with the help of his younger brother, Chai (Ak), stir up plans to free Bua and Noi. Finally, Bua and Noi escape from Pitt's torture. Chud decides to take Bua away for awhile until the situation in their hometown is better while Chai and Noi stay behind watching tearfully as Chud and Bua sail away in a small boat. Chud and Bua make it about halfway until they run into and hear a woman's cries from a bigger boat. Chud and Bua enter the boat expecting to find a woman who is in labor when it is actually Pitt faking and setting the scene. Pitt chains Chud and Bua together and stabs Chud in the stomach. Then, she tied a rock to their feet and threw them into the river to drown to death.
Fast forward many many years later into the next lifetime, they all meet again and the next chapter starts...
เรื่องย่อ
สมัย ร.5 ฉัตร (ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) และฉาย (อัครัฐ นิมิตชัย) 2 พี่น้อง สำเร็จการศึกษาจากรัสเซีย พระยาโกสินทร์ (สรพงษ์ ชาตรี) จึงคิดจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของบุตรชายทั้งสองอย่างเอิกเกริก แต่ฉายพาแอนนา เมียแหม่มกลับมาด้วย พระยาโกสินทร์จึงฝากความหวังเรื่องลูกสะใภ้สมหน้าสมตาไว้ที่ฉัตรคนเดียว
นายชด (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) เป็นหนี้พระยาสมาน (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) จึงเอาบัว (วรัทยา นิลคูหา) ลูกสาวคนเดียวมาเป็นทาสขัดดอก พระยาสมานคิดจะเอาบัวเป็นเมียคนล่าสุดให้ได้ จึงฝากให้อยู่ในความดูแลของน้อย (พิชญา เชาวลิต) ทาสในเรือนเบี้ย ทำให้ด้วง (เก็จมณี วรรธนะสิน) เมียทาสที่อยากขึ้นเป็นคุณหญิงคนใหม่ชังน้ำหน้าบัวขึ้นมาทันที จึงเอาเรื่องบัวไปเล่าให้พิศ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวคนเดียวของพระยาสมานฟัง แต่พิศกำลังวุ่นวายเรื่องเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงฉัตรและฉาย จึงทำให้ยังไม่ได้เห็นหน้าบัว
ในงานเลี้ยง พระยาสมานแสร้งไม่สบายเพื่อขอลากลับก่อน พิศที่หลงรักฉัตรทันทีที่เห็นหน้า ก็แสร้งทำเป็นไม่สบายอ้อนฉัตรเช่นกัน ในขณะที่พระยาสมานแอบกลับบ้านเพื่อจะไปเอาบัวเป็นเมียในคืนนี้ให้ได้ แต่ขณะที่พระยาสมานกำลังจะข่มเหงบัว ฉัตรก็เข้ามาช่วยบัวเอาไว้ได้ทัน เพราะฉัตรพาพิศที่แกล้งไม่สบายกลับมาส่งบ้าน ฉัตรเห็นหน้าบัวก็หลงรักทันที พิศจึงเกลียดบัวตั้งแต่นาทีนั้นจับใจและสั่งย้ายบัวจากเรือนทาสไปอยู่ที่กระท่อมท้ายสวนและหาวิธีกลั่นแกล้งบัวต่าง ๆ นานา ถึงแม้ฉัตรจะรู้ว่าบัวเป็นเพียงทาสขัดดอกก็ไม่ได้รังเกียจ น้อยเป็นคนคอยส่งข่าวสารให้ระหว่างบัวกับฉัตร แต่น้อยก็ต้องระวังตัวแจเพราะกลัวจะถูกพิศลงโทษ
หลังจากวันนั้นพระยาสมานยังไม่กล้าทำอะไรบัวเพราะเกรงใจพิศ แต่สั่งเพียร (ภูริ หิรัญพฤกษ์) ลูกทาสที่เกิดจากนางพุ่ม (ปวีณา ชารีฟสกุล) เมียทาสคนหนึ่งให้คอยจับตาไว้ เพียรอยากเอาใจพ่อด้วยหวังว่าจะได้ความเมตตาจากพระยาสมาน จึงเฝ้าดูและส่งข่าวบัวให้พระยาสมานเป็นระยะ เพียรเองก็แอบชอบน้อยมานานแล้ว แต่น้อยไม่เล่นด้วยเพราะรู้ว่าไม่ใช่คนดี
วันหนึ่งนายชดไปหาปลาแล้วเกิดงมเอา ตรวนทองคำ ขึ้นมาได้ จึงเอามาไถ่ตัวบัว พระยาสมานเห็นตรวนทองคำเป็นของแปลกมหัศจรรย์ก็อยากได้ จึงสั่งให้เพียรฆ่านายชดหมกป่าแล้วเอาตรวนทองคำมาให้ แต่เมื่อพิศมาเห็นเข้าก็ชอบจึงเอ่ยปากขอจากพ่อ พระยาสมานจึงต้องตามใจลูกสาว ยกตรวนทองคำให้แก่พิศไป
นางด้วงโทษว่าพระยาสมานเปลี่ยนใจไปจากเธอเพราะบัว จึงคิดยืมมือพิศฆ่าบัวทิ้งโดยเขียนจดหมายในชื่อบัวลวงฉัตรให้มาที่กระท่อมท้ายสวน แล้วเขียนจดหมายอีกฉบับที่เหมือนกันแล้วเอาไปให้พิศ อ้างว่าได้มาขณะที่บัวฝากน้อยให้เอาไปส่งให้ฉัตร พิศอ่านจดหมายนั้นก็โกรธมาก พุ่งตรงไปที่กระท่อมท้ายสวนทันที ฉัตรไปหาบัวที่กระท่อมท้ายสวนและรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ก็คิดจะพาบัวหนี แต่ไม่ทันพิศที่เข้ามาตบตีบัว ฉัตรจึงลากบัววิ่งหนี พิศวิ่งตามแต่สะดุดตะเกียงแล้วถูกไฟครอกจนเสียโฉม ฝ่ายฉัตรที่พาบัวหนีเกิดไปพบพวกพระยาสมานเข้าอีก จึงยื้อยุดฉุดกระชากกันจนพระยาสมานหกล้มทับหลาวแหลมจนเสียชีวิต พิศที่ตามมาตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าพ่อตาย จึงสั่งเพียรจับฉัตรและบัวล่ามด้วยตรวนทองคำแล้วพาขึ้นเรือไป
กลางแม่น้ำ พิศที่เสียใจมากที่ทำดีกับฉัตรเท่าไหร่เขาก็ไม่เคยสนใจ ซ้ำทั้งฉัตรและบัวยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อเธอตายและทำให้เธอเสียโฉมด้วย เมื่อรักกันมากนักก็จงตายไปด้วยกันเสีย และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ชาติก็จะขอจองล้างจองผลาญไม่ให้ฉัตรกับบัวสมหวังในรักได้เป็นอันขาด พูดจบพิศก็ถีบฉัตรและบัวตกน้ำไป
พ.ศ.2555 (ปัจจุบัน) ฉัตร, บัว, พิศ, พระยาสมาน, ไอ้เพียร และอีกหลากหลายชีวิตในอดีตชาติ ต่างพากันกลับมาเกิดร่วมกรรมกันอีกในชาตินี้ แต่มีเพียงคน ๆ เดียวเท่านั้นที่สามารถระลึกชาติได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในชาติที่แล้ว และนั่นคือพิศ หนำซ้ำชาตินี้เธอยังได้ตรวนทองคำมาครอบครองอีกครั้งเสียด้วย พิศไม่ต้องการผิดหวังในรักซ้ำอีก เธอจึงเริ่มตามฆ่าบัวอีกครั้ง! ความรักระหว่างบัวและฉัตรในชาตินี้จะถูกจองจำด้วยตรวนทองคำอีกหรือไม่?
credits: บ่วงวันวาร, Buang Wan Waan